ข้อปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดโบท็อก
- czopspectercom
- 0
- on เม.ย. 28, 2023
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นยาที่ใช้เพื่อรักษาในการคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งบนใบหน้า โดยสารสำคัญของโบท็อกซ์คือโพลิเพปไทด์ที่เป็นพิษจากแบคทีเรียที่ชื่อว่า Clostridium botulinum ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้ โบท็อกซ์ได้รับการอนุมัติให้ใช้เพื่อรักษาหลายๆ อาการ เช่น การล้ามเนื้อที่หดเกร็งบน , ความตึงเกร็งของกล้ามเนื้อต่างๆ, อาการปวดศีรษะเรื้อรัง, อาการเหงื่อออกมากเกิยความจำเป็นและอาการผอมเนื้อที่เกี่ยวข้องกับโรคพาร์กินสัน. การใช้โบท็อกซ์จะต้องมีการสั่งจ่ายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และต้องใช้งานภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ด้วย
โบท๊อกได้รับความนิยมในเรื่องของความงาม ลดการเกิดริ้วรอบก่อนวัยอันควรหลายจุดด้วยกัน ยกตัวอย่าง การยกกระชับหน้าผาก, การลดกรามใต้ตา, การยกกระชับคอ, การยกกระชับทรวงอก, และอื่นๆ ซึ่งการนำโบท็อกซ์มาใช้ในศัลยกรรมจะต้องมีการประเมินผลของแพทย์และผู้ปฏิบัติการแพทย์โดยละเอียด และต้องมีการดูแลหลังการผ่าตัดอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ข้อปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อกซ์เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากสำหรับคนทั่วไป เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นสารพิษที่มีความเข้มข้นสูง ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชียวชาญเสมอ มีข้อปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์ ดังนี้
ก่อนฉีดโบท็อกซ์
- ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยาหรือภูมิแพ้ต่างๆ และประวัติการฉีดโบท็อกซ์ในอดีต (ถ้ามี)
- ห้ามการรับประทานยาลดน้ำหนักหรือยาอื่นๆที่หมอแนะนำก่อนการฉีดโบท็อกซ์
- อย่ารับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือยานอนหลับก่อนการฉีดโบท็อกซ์
หลังฉีดโบท็อกซ์
- อย่าใช้มือสัมผัสแผลที่ฉีดโบท็อกซ์เป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง
- อย่างอบซาวน่าหรือออกกำลังกายหลังการฉีดโบท็อกซ์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- อย่าพยายามนวด หรือกดบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้โบท๊อกที่ฉีดเข้าไปไหลไปจุดอื่น
- อย่ารับประทานยาบำรุงความงามที่มีสารสกัดโพรตีน
อายุเท่าไหร่ถึงจะสามารถฉีดโบท็อกซ์ได้
การฉีดโบท็อก (Botox) นั้นเป็นการใช้สารเคมีเพื่อลดการกระตุ้นของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดริ้วรอย ซึ่งตามหลักแล้วสามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป แต่ก็จะขึ้นอยู่กับแพทย์เพื่อให้ได้รับปริมาณยาที่เหมาะสม ฉะนั้นการฉีดโบท็อกจะต้องได้รับการพิจารณาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก โดยจะต้องพิจารณาปริมาณของโบท็อกที่ใช้และวิเคราะห์ผลกระทบของโบท็อกที่ต่างกันในบุคคลแต่ละรายด้วย
ดังนั้น การฉีดโบท็อกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับอายุของคนไขแต่ แต่จำเป็นต้องพิจารณาแต่ละบุคคลเป็นรายบุคคลในการวิเคราะห์ความเหมาะสมของการฉีดโบท็อก หรือบางเคสอาจจะมีการแนะนำให้ทำอย่างอื่นแทน หรือควบคู่กับไป
โดยสรุปแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ควรมีการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และผู้ปฏิบัติการโดยเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพท์ออกมาได้ดีที่สุด พยายามลดการสัมผีสใบหน้าหลง
ข้อมูลและแหล่งที่มา : https://www.mvitaclinic.com/what-is-botox